บุคคลสำคัญรู้ไว้ไม่เสียหลาย: น้องไธชิ มี 10 คลิป

น้องไธชิ Mister Taichi

ข้อมูล

     คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกอย่างไรให้เก่ง และมีคุณภาพ วันนี้ข่าวสดมาพูดคุยกับ น.ส. นฤชล พรธนนันท์ คุณแม่ของ ด.ช. ไธชิ พรธนนันท์ หรือ น้องไธชิ ที่หลายคนรู้จักน้อง ในวลีเด็ด "ไธชิไม่โอเค" ในคลิปวิดีโอ ที่นำเสนอเรื่องราวไม่เห็นด้วยกับการฆ่าเสือดำ ซึ่งน้องไธชิถ่ายทอดออกมาได้ถึง 2 ภาษา ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ทำให้หลายๆ คนอยากรู้จักน้องมากขึ้น

   น.ส. นฤชล เปิดเผยว่า น้องไธชิ อายุ 4 ปี เรียนอยู่ที่ โรงเรียนเซนต์แอนดรูว์ เป็นเด็กที่ชอบพูดคุย ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่จะพูดภาษาอังกฤษเป็นหลัก

   จุดเริ่มต้นของน้องไธชิที่ตัดสินใจอัดวิดีโอ ลงเฟซบุ๊ก เนื่องจากตอนนั้น น้องไธชิตามแม่ไปทำงานถ่ายโฆษณา แต่บังเอิญขาดนักแสดงเด็กกะทันหัน ทีมงานจึงตัดสินใจให้น้องไธชิลองแสดงดู ผลปรากฎว่า น้องไธชิทำได้ดีมาก หลังจากนั้น ทีมงานจึงให้น้องไธชิถ่ายโฆษณาต่อ

   ตนเห็นว่าลูกมีความสามารถทางด้านนี้ จึงอยากจะส่งเสริม ปกติจะชอบให้เรียนรู้จากการลงมือทำ จึงมีการพูดคุยกับน้องไธชิว่า อยากทำอะไรร่วมกัน ซึ่งน้องไธชิบอกว่า ชอบถ่ายวิดีโอ เห็นดังนั้นจึงบอกน้องว่า ถ้าอยากถ่ายวิดีโอ จะต้องเป็นวิดีโอที่สร้างสรรค์และช่วยเหลือสังคม ทำให้คนที่ดูมีรอยยิ้มกลับมา ซึ่งน้องไธชิก็อยากทำ จึงได้ช่วยกันคิดหัวข้อกับทีมงาน และทำวิดีโอลงเพจในเฟซบุ๊ก

     โดยแต่ละหัวข้อที่อัดวิดีโอนั้น มีทั้งสาระและความสนุกสนาน ซึ่งเรื่องบางเรื่อง หากผู้ใหญ่พูด อาจกลายเป็นเรื่องที่เครียด และจริงจังเกินไป แต่หากเป็นเด็กพูด ก็จะเปลี่ยนมุมมองในการนำเสนอได้

     "ผลงานที่ทำให้คนส่วนใหญ่รู้จักน้อง คือผลงาน "เสือดำ" ซึ่งในตอนนั้น กระแสฆ่าเสือดำกำลังมาแรง ตนได้ถามน้องไธชิว่า น้องไธชิรักสัตว์ไหม อยากจะช่วยสัตว์หรือไม่ ซึ่งน้องไธชิบอกว่า อยากช่วย เราจึงอัดวิดีโอลงเฟซบุ๊ก โดยตอนถ่ายทำบางอย่าง น้องไธชิก็พูดออกมาจากความรู้สึกของน้องเอง โดยที่เราไม่ได้บอก

     และอีก 1 ผลงานที่เป็นที่น่าสนใจ คือ วิดีโอออเจ้า เนื่องจากเป็นกระแสกำลังดัง ซึ่งก็ยอมรับว่า ติดละครบุพเพสันนิวาส ไธชิก็มีบ่นนิดหน่อย ตนเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่ารักเลยตัดสินใจทำวิดีโอนี้ขึ้นมา ภายหลังจากอัพวิดีโอลงเพจเฟซบุ๊กแล้ว ผลตอบรับดีเกินคาด

     น้องไธชิเป็นเด็กที่โชคดี ได้รับความเอ็นดูจากแฟนคลับ ส่วนใหญ่แฟนคลับจะชอบน้องจากบุคลิกและความน่ารักเป็นธรรมชาติ จึงทำให้น้องมีแฟนคลับเป็นของตัวเองแล้ว"

   "วิธีการเลี้ยง้องไธชินั้น จะเน้นการใส่ใจเป็นหลัก ตนเป็นคนทำงานหนัก วันธรรมดาจะเลิกดึก แต่หากเป็นวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ จะยกเวลาทั้งหมดให้น้องไธชิทั้งวัน เพื่อที่จะได้มีเวลาพูดคุยกับไธชิ ให้มีความใกล้ชิดกัน โดยส่วนใหญ่แล้ว ตนจะใส่ใจในเรื่องของสภาพจิตใจของน้องไธชิมากที่สุด จะสอนให้คิดบวกอยู่เสมอ น้องไม่ได้เป็นคนเรียนพิเศษ แต่ส่วนใหญ่แล้ว น้องจะเรียนรู้จากคนรอบข้างมากกว่า"

   "เคล็ดลับในการสอนน้องไธชิ คือ ตนจะพูดภาษาอังกฤษกับน้องไธชิ ให้เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา หากน้องพูดผิดก็ไม่ได้ดุหรือติ แต่จะฝึกให้กล้าพูดมากขึ้น จะไม่ดีหากทำผิด แต่จะสอนเหมือนเด็กโต สอนอย่างมีเหตุผล ให้น้องเข้าใจ

     สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องของความคิดของเด็ก ที่เราค่อนข้างใส่ใจ น้องต้องรู้จักการให้ เป็นคนดีช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนนี้สำคัญที่สุด เมื่อน้องเติบโตขึ้นมาแล้ว ต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และมีคุณภาพ ตนเชื่อว่า การสอนลูกให้เป็นคนดีจะเป็นเกราะป้องกันในตัวของลูกในหลายๆ เรื่อง"

   "อยากบอกคุณแม่ท่านอื่นว่า ตนเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว น้องไธชิเป็นลูกคนแรก ไม่เคยมีลูกมาก่อน สิ่งหนึ่งที่พยายามคิดอยู่เสมอว่า การเลี้ยงเด็กคือศิลปะอย่างหนึ่ง เป็นอะไรที่ไม่ตายตัว มีทั้งยากและง่าย เด็กจะมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้ทราบว่า ลูกของเราชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร โดยส่วนตัวแล้ว ตนใช้หลักพุทธศาสนาเข้ามาช่วยในการสอนลูก จะไม่พยายามเขี้ยวเข็นเรื่องของวิชาการ แต่จะปลูกฝังจิตสำนึก สอนให้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ช่วยเหลือผู้อื่น สิ่งสำคัญคือ ใจและความคิด เป็นรากฐานสำคัญในวันนี้ จนถึงวันที่เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ" น.ส. นฤชล กล่าว

   ด้านน้องไธชิ เมื่อถามว่าโตขึ้นอยากทำงานอะไร น้องไธชิตอบสั้นๆ ว่า "อยากทำงานกับคุณแม่ เพราะเห็นคุณแม่ทำงานหนัก" ซึ่งคำตอบของน้องไธชิ ทำให้หลายคนเห็นมุมมองของความคิดด้านบวกของเด็กวัย 4 ปี ที่คุณแม่ตั้งใจสอนน้องให้เติบโตเป็นคนดี ช่วยเหลือผู้อื่น และใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพต่อไปในอนาคต

เครดิต-ข่าวสด

ภาพ